จีน-บราซิล ร่วมยกระดับความสัมพันธ์ทุกมิติ

0
0

การเดินทางเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนของประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อร่วมหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีความหมายอย่างยิ่งที่ผู้นำประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลกจากซีกโลกตะวันออกและตะวันตกจะร่วมพัฒนาความร่วมมือในหลายด้าน โดยปี 2023 นี้ยังเป็นปีครบรอบ 30 ปีของการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและบราซิล และปี 2024 จะเป็นปีฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและบราซิล อีกด้วย

ในการหารือกันครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังให้คํามั่นว่า จีนจะสนับสนุนการนำเข้าผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากบราซิล ส่งเสริมความร่วมมือตามโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและยุทธศาสตร์การปฏิรูปอุตสาหกรรมของบราซิล อีกทั้งจะสนับสนุนกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (LAC) และการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประชาคมละตินอเมริกาและแคริบเบียน (CELAC) เสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศเมอร์โคซูร์ (Mercosur) และสหภาพประชาชาติอเมริกาใต้ (UNASUR)

จีนและบราซิลได้ร่วมลงนามเอกสารความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว  พลังงานสะอาด เศรษฐกิจดิจทัล โดยจะร่วมกันส่งเสริมให้กลุ่ม G20 มีบทบาทในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) มากขึ้น โดยมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้คณะกรรมการประสานงานและความร่วมมือระดับสูงระหว่างจีนและบราซิล (COSBAN) และจะมีการดําเนินการเจรจาทวิภาคีและประสานงานจุดยืนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศกลุ่ม BRICS ต่อไป

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงพัฒนาความร่วมมือแบบทวิภาคี เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน การขนส่ง อุตสาหกรรม การเกษตร และเทคโนโลยีขั้นสูง การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม การเกษตร การศึกษา เป็นต้น

ในด้านการค้า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของบราซิลเป็นเวลา 14 ปีติดต่อกัน และบราซิลเป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกาที่มีมูลค่าการซื้อขายกับจีนมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การมาเยือนจีนของประธานาธิบดีบราซิลในครั้งนี้ ยังมีคณะนักธุรกิจมากกว่า 200 คนจากกว่า 140 อุตสาหกรรม ร่วมเดินทางมาด้วย เพื่อหาโอกาสพัฒนาการค้าการลงทุนร่วมกันระหว่างจีนและบราซิลต่อไป

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับวิกฤตรัสเซียและยูเครน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการเจรจาเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาและยุติสถานการณ์ความรุนแรงได้ โดยจะสนับสนุนแนวทางต่างๆ ที่เอื้อต่อการแก้ปัญหาอย่างสันติ

การหารือระหว่างผู้นำจีนและบราซิลในครั้งนี้ จึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายในทุกมิติ และยังเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ภูมิภาค การส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาโลกของทั้งสองประเทศต่อไป

บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย