หนังสือพิมพ์ People’s Daily รายงานว่า นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนชี้ให้เห็นในที่ประชุมครั้งที่ 15 ของทีมเศรษฐกิจส่วนกลางของจีนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ว่า การผลักดันการตัดกำลังการผลิตที่เกินความต้องการจริงจะเข้มข้นขึ้น จีนจะต้องคุมและจัดการ ต้นเหตุของ “บริษัทผีดิบ” ให้ได้
“บริษัทผีดิบ” หมายถึงบริษัทที่หยุดผลิต กึ่งหยุดผลิต ขาดทุนแรมปี มีหนี้สินล้นพ้น รักษากิจการด้วยเงินช่วยเหลือของรัฐบาลและเงินกู้เพิ่มเป็นหลัก การจัดการกับ “บริษัทผีดิบ” กลายเป็นทิศทางหลักในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างด้านอุปทานของบริษัทรัฐวิสาหกิจ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงก็เกิดจากหลายเหตุ เช่น ผลกระทบจากวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ ตลาดระหว่างประเทศซบเซาอย่างต่อเนื่อง อัตราการเติบโตของความต้องการภายในประเทศจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง อุตสาหกรรมการผลิตบางส่วนมีกำลังการผลิตเกินความต้องการจริงอย่างนับวันมากขึ้น
อุตสาหกรรมการผลิตที่สืบทอดกันมานานมีกำลังการผลิตเกินค่อนข้างมาก ในปี 2558 รัฐบาลจีนเริ่ม “ตัดกำลังการผลิต” เป็นหน้าที่อันดับแรกในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างใหญ่ๆ 5 ประการในปี 2559
คณะกรรมการทรัพย์สินของรัฐสามารถจัดการ “บริษัทผีดิบ” และปรับปรุงโครงสร้างบริษัทที่มีปัญหาเป็นพิเศษรวม 398 บริษัทในรอบปี 2559 ซึ่งทำให้กลุ่มบริษัทในเครือของรัฐบาลส่วนกลางที่ประกอบกิจการที่ประสบปัญหา จำนวน 10 บริษัทได้ลดภาระหนักลง และบรรลุผลการลดภาวะขาดทุนโดยรวมถึง 50% ในจำนวนนั้นมีบริษัทของรัฐบาลกลาง 8 บริษัท รวมชาลโค ซึ่งบริษัทถลุงแร่จดทะเบียนในเครือของไชนาลโค (Chinalco) อีกด้วย บริษัทนี้ได้หลุดพ้นออกจากภาวะขาดทุนทีเดียว ขณะเดียวกัน ยอดรวมกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ 1.86 หมื่นบริษัททั่วประเทศได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งถือว่าได้สร้างอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดนับแต่ปี 2555 เป็นต้นมา
จากข้อมูลตัวเลขที่ประกาศโดยศาลสูงสุดของจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปรากฏว่า ในรอบปี 2559 ศาลสูงสุดของจีนได้ตีตรารับพิจารณาคดีล้มละลายทั้งหมด 5,665 คดี เพิ่มมากกว่า 2558 ถึง 54% ในจำนวนนั้นมีประมาณ 3,600 คดีได้เสร็จสิ้นการพิจารณาปิดคดี คดีที่ปิดแล้วมี 85% ได้นำไปสู่การชำระบัญชี หนังสือพิมพ์เดอะไฟแนนเซียลไทม์ของประเทศอังกฤษให้ความเห็นว่า การที่จีนมีคดีล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2559 สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลจีนได้รับผลคืบหน้าในการจัดการ “บริษัทผีดิบ” ลดกำลังการผลิตที่เกินลง