สมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปในพิธีเททอง วัดป่ามณีกาญจน์

0
1269

พระสัมโมทนียกถา
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประทานในการเสด็จไปในพิธีเททอง
หล่อพระพุทธรูปปางถวายเนตรทองคำ
ณ วัดป่ามณีกาญจน์ จังหวัดนนทบุรี
วันอาทิตย์ ที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๐

…………………….

ท่านพระเถรานุเถระ เพื่อนสหธรรมิกทุกท่าน,
เจริญพร ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
และท่านสาธุชนผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ทุกท่าน

อาตมภาพมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาอยู่ท่ามกลางการประชุมพร้อมเพรียงกันของท่านทั้งหลายผู้เป็นหนึ่งในพุทธบริษัท ซึ่งต่างพรั่งพร้อมกันมาบำเพ็ญกุศลหล่อพระพุทธรูป และถวายผ้าป่า ณ วัดป่ามณีกาญจน์ เป็นการสั่งสมบุญไว้ในพระบวรพุทธศาสนา อาตมภาพขออนุโมทนาสาธุการด้วยใจจริง

ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปด้วยทองคำ เป็นวัสดุที่โลกนิยมว่ามีคุณค่าสูงส่ง อีกไม่นานพระพุทธรูปองค์นั้นคงแล้วเสร็จ แต่ยังมีข้อควรคำนึงประการหนึ่ง ที่อาตมภาพปรารถนาจะปรารภ นั่นคือการสร้าง “พระพุทธ” ไว้ในใจของพวกเราทุกคน การสร้างพระเช่นนั้นทำได้โดยไม่ต้องตั้ง “พิธี” ไม่ต้องจัดพิธีรีตองอะไร หากท่านทั้งหลายทราบ “วิธี”

“อนุสติ” ซึ่งแปลว่าความระลึกถึง หรืออารมณ์อันควรระลึกถึงเนืองๆ จัดเข้าเป็นอารมณ์พระกรรมฐานในทางพระพุทธศาสนา มีจำแนกไว้ถึง ๑๐ ประการ แต่อนุสติประการแรก ที่เราทั้งหลายได้ตามระลึกเป็นอารมณ์อยู่เสมอ คือ “พุทธานุสติ” พุทธานุสตินั้น คือการตามระลึกถึงพระพุทธเจ้า เฝ้าน้อมจิตระลึกถึงและพิจารณาพระคุณของพระพุทธองค์เป็นอารมณ์อยู่เสมอ นับได้ว่าเป็นอารมณ์พระกรรมฐานที่มีอานิสงส์มาก ที่กล่าวเช่นนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบรมครูของพุทธบริษัททั้งหลายนั้น ทรงเลิศล้ำด้วย “พระพุทธคุณ” สรุปได้ ๓ ประการ กล่าวคือ

๑. พระปัญญาคุณ พระพุทธองค์มีพระปัญญารอบรู้ถึงความจริงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ทรงทราบความเป็นจริงของสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นอย่างไร และนำความจริงเหล่านั้นมาเปิดเผยชี้แจงแสดงแก่โลก

๒. พระบริสุทธิคุณ พระพุทธองค์ทรงมีพระทัยบริสุทธิ์ สะอาดหมดจดจากอาสวกิเลส คือเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย ไม่มีความขุ่นมัวเศร้าหมองภายในพระทัย เหตุที่ทรงบริสุทธิ์สะอาดเช่นนี้ก็เพราะมีพระปัญญาเป็นเครื่องชำระ

๓. พระมหากรุณาคุณ ทรงถึงพร้อมด้วยความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย จึงทรงนำความจริงจากการตรัสรู้ มาอนุเคราะห์สั่งสอนโลก ให้เราทั้งหลายสามารถรู้ตามพระองค์ได้ด้วยพระอุตสาหวิริยะอย่างยิ่ง พระคุณข้อนี้ทำให้ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงสั่งสอนสัตวโลกได้ จนบังเกิดพระพุทธศาสนาสืบมาถึงเราท่านทั้งหลายจนถึงวันนี้

การที่เราทั้งหลายมาร่วมพิธีเททองหล่อพระพุทธรูป จึงมิใช่เพียงเพื่อเอาบุญเอากุศลจากการสร้างวัตถุในพระศาสนาแต่อย่างเดียว หากแต่ควรเอาใจน้อมระลึกถึงพระพุทธคุณไว้เป็นอารมณ์ ให้บังเกิดพุทธานุสติ เป็นเครื่องตามระลึกถึงอยู่คู่ใจในทุกขณะจิต เป็นวิถีแห่งการปฏิบัติบูชา ด้วยการเร่งอบรมกาย วาจา และใจของตน ให้ถึงพร้อมด้วยธรรมะของสมเด็จพระบรมศาสดา เพียรสร้างคุณสมบัติในตน ให้งดงามตามวิถีแห่งพระพุทธคุณ เพื่อความสุขความเจริญในชีวิต ในสังคมประเทศชาติ และในโลกนี้ จนถึงที่สุดแห่งความหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ได้ ตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงชี้แจงแสดงหนทางไว้ให้พวกเราแล้ว นั่นแลคืออานิสงส์อันล้ำเลิศอย่างแท้จริง ของการสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระบวรพุทธศาสนา

อาตมภาพขออนุโมทนาสาธุการอีกครั้ง และขออานุภาพแห่งบุญุกุศลที่สาธุชนทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ จงเป็นเหตุปัจจัยนำพาให้ท่านทั้งหลาย เจริญงอกงามในธรรมะ ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งๆ ขึ้นไป เทอญ.

ขออำนวยพร

  • หมายเหตุ ขออนุญาตรวบรวมภาพจากหลายๆท่าน มารวมไว้ในข่าวนี้ เพื่อให้เก็บเป็นประวัติศาสตร์ต่อไป

หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ

ช่วงเย็น พุทธบริษัทร่วมฟังพระธรรมเทศนาองค์หลวงปู่อุทัย สิริธโรและสวดเจริญพระพุทธมนต์ถวายแด่องค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโรที่วัดป่ามณีกาญจน์
ช่วงเย็น พุทธบริษัทร่วมฟังพระธรรมเทศนาองค์หลวงปู่อุทัย สิริธโร

เวลา 19.00 น. พุทธบริษัทร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นอาจาริยบูชาแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ซึ่งพำนักอยู่ที่ วัดป่ามณีกาญจน์