‘สี จิ้นผิง’ ในสายตาคนจีน: ‘คำพูดของเลขาธิการใหญ่ทำให้ผมเปิดความคิด’ (10)
วันที่ 16 กรกฎาคม 2015 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีจีน ดูงานที่จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าเกาหลีหยันเปียน มณฑลจี๋หลิน เขาไปยังหมู่บ้านกวางตุง ตำบลตงเฉิง เมืองเหอหลง และได้พูดคุยกับชาวบ้านท้องถิ่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักข่าวได้กลับไปเยี่ยมนายจิน จุน ตัวแทนหมู่บ้านที่รายงานต่อนายสี จิ้นผิง เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาที่กลับไปบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ
นายจิน จุน บอกกับนักข่าวว่า ก่อนเข้าหมู่บ้านเขาต้องผ่านทุ่งนาขนาดใหญ่ ในวันเดียวกันนั้น เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง ลงจากรถและเดินไปตามสันโคลนเข้าไปในทุ่งนาเพื่อพูดคุยกับชาวบ้านและช่างเทคนิคการเกษตรที่ทำงานอยู่ เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนมีประชากร 1.3 พันล้านคน และต้องพึ่งพาเราเองที่จะสร้างเสถียรภาพในการผลิตธัญญาหาร นอกจากนี้ เราก็ควรออกแบรนด์เมล็ดข้าวด้วยเพื่อให้มีราคาดีและได้ประโยชน์ดี ขอให้ชาวบ้านได้ผลผลิตที่ดี
หลังจากนั้น เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง ได้จัดสัมมนาเล็ก ๆ ในบ้านของชาวบ้าน ตามธรรมเนียมชนเผ่าเกาหลี เลขาฯ ถอดรองเท้าแล้วและนั่งขัดสมาธิบนเตียงนอนดินและพูดคุยกับชาวบ้าน นายจิน จุน วัย 32 ปี นั่งข้างเลขาธิการใหญ่ในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบการธุรกิจรุ่นเยาว์ที่กลับบ้านเกิดและรายงานประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการในการปลูกและแปรรูปข้าวต่อเลขาธิการใหญ่
นายจิน จุน กล่าวว่า คำพูดของเลขาธิการ สี จิ้นผิงที่ว่า “ธัญหารต้องมีตราสินค้าด้วย” เปิดความคิดของเขา
หลังกลับจากเรียนต่อต่างประเทศในปี 2009 นายจิน จุนได้ตั้งฟาร์มข้าวอินทรีย์และบริษัทแปรรูปข้าวในหมู่บ้าน โดยพยายามนำชาวบ้านออกจากวิธีการทำนาแบบ “ทุกครอบครัวปกป้องพื้นที่เพาะปลูกเล็กของบ้านเอง” แต่ในสมัยนั้นแปรรูปข้าวอย่างมาก 30 ตันต่อวัน ซึ่งโดยทั่วไปจะขายในท้องถิ่น และข้าวดีไม่สามารถขายได้ราคาดี
คำชี้นำของเลขาธิการใหญ่ชี้ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวหยันเปียนและข้าวจี๋หลิน และทำให้ชาวบ้านมีความมั่นใจและความสามารถที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมและการสร้างแบรนด์
เพื่อสร้างแบรนด์ นายจิน จุน และชาวบ้านได้ไปสำรวจสถานที่ต่าง ๆ และขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตรให้การสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับการปลูกข้าว พันธุ์เก่าได้รับการปรับปรุง และเมล็ดข้าวก็ละเอียดขึ้น มีกลิ่นหอมมากขึ้น และอร่อยมากขึ้น
หลังจากปรับปรุงคุณภาพแล้ว ก็ได้ขยายขนาดพื้นที่ปลูกและขยายโรงงานแปรรูป ขณะเดียวกันก็มีอุปกรณ์การแปรรูปเฉพาะทางและสายการผลิตที่ได้มาตรฐาน พึ่งพาตลาดออนไลน์เปิดช่องทางการขายใหม่ ๆ ข้าวที่เคยขายแค่ในท้องถิ่น ปัจจุบันขายได้ทั่วประเทศผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ในช่วงหลายปีมานี้ด้วยความช่วยเหลือจากทางการระดับต่าง ๆ หมู่บ้านกวางตุงได้กลายเป็นฐานสาธิตระดับชาติด้านการเผยแพร่วิทยาศาสตร์การปลูกข้าวอินทรีย์และฐานข้าวอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ราคาข้าวจาก 8 หยวนต่อกิโลกรัมในอดีต ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 15 หยวนต่อกิโลกรัม ทำให้ 300 กว่าครอบครัวรวยไปด้วยกัน
นายจิน จุน กล่าวว่า เลขาธิการใหญ่สนับสนุนให้ผมขยันทำงานในตอนนั้น และตอนนี้ผมอยากจะรายงานต่อเลขาธิการใหญ่ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าวหยันเปียนของเราไม่ได้ขายแค่ทั่วประเทศ แต่ยังขายให้กับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่กล้าคิดเมื่อก่อน ข้าวหยันเปียนเปลี่ยนจาก “กลิ่นหอม” เป็น “มีชื่อเสียง”
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่
‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – น้ำใสภูเขาเขียวก็คือทางออกใหม่ที่ท่านเลขาธิการใหญ่ชี้นำให้กับเรา (9)
