‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – “ความห่วงใยที่จริงใจของท่านเลขาธิการใหญ่อบอุ่นหัวใจชาวบ้าน” (13)

0
5

สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – “ความห่วงใยที่จริงใจของท่านเลขาธิการใหญ่อบอุ่นหัวใจชาวบ้าน” (13)

วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ.2016  ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจงานในเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย นายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้เดินทางไปหมู่บ้านหยวนหลง ตำบลหมิ่นหนิง อำเภอหย่งหนิง เมืองหยินชวน เพื่อเยี่ยมเยียนและพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านผู้ย้ายถิ่นในหมู่บ้าน ซึ่งรวมถึงเซี่ยซิงชังด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักข่าวได้ไปเยี่ยมและขอสัมภาษณ์เซี่ยซิงชัง ต่อไปเป็นคำบอกเล่าของเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดของเขา

“แหล่งตั้งถิ่นฐานใหม่สำหรับผู้ย้ายถิ่นทางนิเวศวิทยา”ของเราแห่งนี้ร่วมกันสร้างโดยมณฑลฝูเจี้ยนและเขตหนิงเซี่ย ตามการเสนอชี้นำของท่านเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว

จากพื้นที่ดินทรายแห้งแล้งในอดีตที่ “ไม่มีนกบนท้องฟ้า ไม่มีหญ้าบนพื้นดิน” กลับกลายมาเป็นพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมอันสวยงามและชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่งคั่ง โครงการย้ายถิ่นได้เปลี่ยนชะตากรรมของเราที่เคยยากจนมาหลายชั่วอายุคน!

ผมมักจะย้อนคิดถึงวันที่ได้พบกับท่านเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงเสมอ ในวันนั้นผมบอกกับท่านเลขาธิการใหญ่ด้วยความตื่นเต้นว่า ครอบครัวผมย้ายจากหุบเขาใหญ่ในพื้นที่ซีไห่กู้มาที่นี่เกือบ 20 ปีแล้ว รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ เกือบทุกวัน หากให้บอกเล่าถึงบุญคุณของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะใช้เวลาสามวันสามคืนก็คงยังไม่เพียงพอจริงๆ

ท่านเลขาธิการสีจิ้นผิงกล่าวว่า “ในครอบครัวสังคมนิยมใหญ่ของเรา จำต้องให้บรรดาชาวบ้านรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากพรรคและรัฐบาลตลอดเวลา เมื่อเห็นหมู่บ้านใหม่สำหรับผู้ย้ายถิ่นที่นี่สร้างขึ้นอย่างเป็นระเบียบและสวยงาม ประชาชนได้หลุดพ้นจากความยากจนในอดีต ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มปิติจริงๆ”

ความห่วงใยที่จริงใจของท่านเลขาธิการใหญ่ทำให้หัวใจของผู้คนทั้งหลายอบอุ่น ผมรู้สึกได้ว่าหัวใจของท่านกับหัวใจของพวกเราเชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิด

ผมเป็นผู้อพยพกลุ่มแรกที่ย้ายมาที่นี่ในปีนั้น ได้เห็นกับตาถึงการพัฒนาของตำบลหมิ่นหนิง

ตำบลหมิ่นหนิงเดิมเรียกว่าหมู่บ้านหมิ่นหนิง ในวันที่วางศิลาฤกษ์ ท่านสีจิ้นผิงซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำมณฑลฝูเจี้ยนและหัวหน้าหน่วยงานชี้นำภารกิจจับคู่ช่วยเหลือเขตหนิงเซี่ยของมณฑลฝูเจี้ยน ได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีมายังหมู่บ้าน พอดีผมยืนอยู่ที่บริเวณเวทีจัดงานและได้ฟังการอ่านจดหมายฉบับนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก แม้ว่าเวลานั้นหมิ่นหนิงยังเป็นเพียงพื้นที่รกร้างว่างเปล่า แต่ผมรู้ว่ามีความหวังแน่นอนเมื่อได้ย้ายออกจากภูเขา

หลายปีที่ผ่านมา เราได้ปลูกเห็ด องุ่น เก๋ากี้ และเลี้ยงโคเนื้อ ฯลฯ ผู้อพยพรุ่นแล้วรุ่นเล่าอย่างพวกเราได้ก่อร่างสร้างตัวใหม่ที่นี่ ร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ จากหมู่บ้านหมิ่นหนิงที่มีคนไม่กี่พันคน ค่อยๆยกระดับจนเป็นตำบลหมิ่นหนิงที่มีประชากรมากกว่า 60,000 คนแล้วในปัจจุบัน

ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าวกับพวกเราขณะมาตรวจงานที่หมู่บ้านแห่งนี้ว่า “ตำบลหมิ่นหนิงได้ค้นพบหนทางที่ถูกต้อง” “ต้องสรุปและเผยแพร่ประสบการณ์แห่งความเป็นต้นแบบ ดำเนินภารกิจการย้ายถิ่นและการบรรเทาความยากจนให้ดี”  “ขอให้ชาวบ้านทุกคนมีชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ”

คำพูดของท่านเลขาธิการใหญ่ทำให้อบอุ่นและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเรา ผู้คนทั้งหลายต่างมีความมั่นใจและกำลังวังชาในการทำงานมากยิ่งขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ อีกมากมายเกิดขึ้นในตำบลหมิ่นหนิง เช่น การปรับปรุงดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น ถนนหนทาง สถานีอนามัย และโรงเรียน เป็นต้น ชีวิตความเป็นอยู่สะดวกสบายขึ้นเรื่อยๆ การสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและการสร้างพื้นที่สีเขียวก็ได้ยกระดับสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

ด้านอุตสาหกรรมยิ่งได้รับการพัฒนาใหม่ ธุรกิจต่างๆในตำบล เช่น องุ่น เก๋ากี้ และอีคอมเมิร์ซเป็นต้น ต่างก็กำลังเฟื่องฟู มีวิสาหกิจจากฝูเจี้ยนเข้ามาลงทุนและเปิดโรงงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การหางานทำของผู้คนก็สะดวกยิ่งขึ้น สามารถหางานทำใกล้ๆหมู่บ้านได้ จึงสามารถทำมาหากินควบคู่ไปกับการดูแลครอบครัวได้

ในช่วงเริ่มแรกของการย้ายถิ่นและการพัฒนานั้น รายได้สุทธิต่อหัวต่อปีของเราอยู่ที่ประมาณ 500 หยวนเท่านั้น ในปี 2016 ได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 10,000 หยวน เมื่อปีที่แล้ว รายได้สุทธิต่อหัวของทั่วทั้งตำบลทะลุ 16,000 หยวนแล้ว

ผมมักรู้สึกว่าการมาอยู่ที่หมิ่นหนิงนั้นเป็นเหมือนความฝัน บ้านของครอบครัวผมได้ดำเนินการ”อัพเกรด”แล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่บ้านดิน บ้านอิฐและไม้ บ้านชั้นเดียว ไปจนถึงบ้านสองชั้นที่มีลานเล็กๆ ครอบครัวผมมีลูกทั้งหมด 5 คน มี 4 คนเรียนจบมหาวิทยาลัย อีกคนเรียนจบวิทยาลัยอาชีวศึกษา ทั้ง 5 คนล้วนทำงานและมีครอบครัวของตนเองแล้ว

ปัจจุบันนี้นับวันมีคนรู้จักหมิ่นหนิงมากขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในตำบลก็พัฒนาขึ้นมาแล้ว ในฐานะผู้อพยพรุ่นเก่า ผมกำลังเป็นจิตอาสาที่คอยบรรยายให้กับนักท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตำบล นักท่องเที่ยวจำนวนมากบอกว่าการพัฒนาของหมิ่นหนิงนั้นช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ!

คำประกอบภาพ: สีจิ้นผิงเยี่ยมปลอบขวัญชาวบ้านอพยพในหมู่บ้านหยวนหลง ตำบลหมิ่นหนิง อำเภอหย่งหนิง เมืองหยินชวนเมื่อเช้าวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2016

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – “ท่านเลขาธิการใหญ่มีความผูกพันต่อเขตการปฏิวัติเก่าของเราจริงๆ!” (12)