เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 17 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่

0
1

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 17” ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ร่วมกันจัดโดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และกระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินงานโดยศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ หอภาพยนตร์จีนและหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ร่วมจัดโดย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยประเทศจีน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตัวแทนจากสมาคมและบริษัทต่างๆ อาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง สื่อจีนและสื่อไทย รวมถึงผู้ชมทั่วไปทั้งชาวจีนและชาวไทยกว่า 600 คนเข้าร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้

ท่านเอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง กล่าวในพิธีเปิดงานว่า ปีนี้เป็นปีแรกของการร่วมกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและไทย อีกทั้งยังเป็นปีแห่งการครบรอบ 10 ปีการร่วมกันริเริ่มโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ในระหว่างการเยือนประเทศจีนของท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ 3 และการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ผู้นำของทั้งสองประเทศได้บรรลุฉันทามติที่สำคัญในการขยายการติดต่อสื่อสารระหว่างประชาชนกับการแลกเปลี่ยนทางสังคมและวัฒนธรรม ทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือในด้านภาพยนตร์และวัฒนธรรม ส่งผลให้การติดต่อสื่อสารระหว่างประชาชนและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยมีความลึกซึ้งรอบด้าน ได้มุ่งสู่ทิศทางของความก้าวหน้าและนำไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ๆ ท่านเอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง กล่าวว่าภาพยนตร์มีบทบาทพิเศษในการส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างผู้คน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรมโลก ด้วยความพยายามร่วมกันของจีนและไทย เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ได้กลายเป็นกิจกรรมที่สำคัญของการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้คนของทั้งสองประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ จะประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไป เดินหน้าส่งเสริมโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีนไทย ตลอดจนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางวัฒนธรรม การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันและยังคงสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ เป็นการเขียนบทใหม่ของ “จีนไทยใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน”

ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กล่าวสุนทรพจน์ว่า ภายใต้การเป็นสักขีพยานร่วมกันของผู้นำประเทศไทยและประเทศจีน ตัวท่านรัฐมนตรีและตัวแทนจากทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ลงนามใน “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านภาพยนตร์” ระหว่างไทยและจีน “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 17” ในวันนี้ถือเป็นผลเชิงบวกในการดำเนินการตามฉันทามติของผู้นำทั้งสองประเทศและปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือ ท่านรัฐมนตรีเสริมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ศิลปะภาพยนตร์ไม่ได้เป็นเพียงสื่อกลางของความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานแห่งความเข้าใจและการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมอีกด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภาพยนตร์จีนได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เทศกาลภาพยนตร์จีนในครั้งนี้ทำให้คนไทยมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์จีนมากขึ้น เข้าใจจีนและเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันและสร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น กระทรวงวัฒนธรรมยังหวังที่จะใช้โอกาสนี้ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างการสื่อสารระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน ช่วยให้องค์กรต่างๆ กระชับความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างและแบ่งปันผลสำเร็จร่วมกันทั้งสองฝ่าย การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างผลงานยอดเยี่ยมให้มากยิ่งขึ้น ผลักดันความร่วมมือของทั้งสองประเทศในด้านติดต่อสื่อสารระหว่างประชาชนกับการแลกเปลี่ยนทางสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมือด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ไปสู่ระดับใหม่และผลสำเร็จใหม่

นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เพิ่งเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากเดินทางเยือนปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ โดยมีความรู้สึกใหม่ๆ ทุกครั้งที่ไปเยือนประเทศจีน ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาปริมาณการค้าระหว่างไทยและจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก การแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลระดับสูงและประชาชนระหว่างทั้งสองประเทศมีมากขึ้นเรื่อยๆ ความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างทั้งสองประเทศมีความเข้มแข็งและขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์ที่ฉายใน “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 17” บอกเล่าเรื่องราวของจีนยุคใหม่ให้คนไทยได้ฟังและหวังว่าทุกคนจะได้ไปเยือนประเทศจีนด้วยตนเองเพื่อชมบรรยากาศใหม่ๆ ของประเทศจีนในยุคใหม่

หลังจากพิธีเปิด ได้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง “Creation of the Gods I: Kingdom of Storms” และมีการจัดงานแลกเปลี่ยน แขกผู้มีเกียรติและผู้ชมกล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ โครงเรื่องและนักแสดงยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ให้ความรู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นและผู้ชมต่างตั้งตารอรับชมภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ฉายในช่วงเทศกาลภาพยนตร์จีนครั้งนี้

เทศกาลภาพยนตร์จีนในครั้งนี้จะจัดไปจนถึงวันที่ 13 ธันวาคม โดยคัดสรรภาพยนตร์ที่นำมาฉายเป็นพิเศษจำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ “Creation of the Gods I: Kingdom of Storms”  “Chang An” “Never Say Never” “Lighting Up The Stars” และ “Ordinary Hero” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา รวมถึงผลงานแอนิเมชันที่จำลองประวัติศาสตร์จีนและวัฒนธรรมดั้งเดิม ภาพยนตร์สมจริงที่สะท้อนวัฒนธรรมและสังคมของจีน รวมถึงภาพยนตร์มหากาพย์ระดับตำนานที่ได้รับรางวัลมากมาย

เทศกาลภาพยนตร์ในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การขยายแพลตฟอร์มความร่วมมือ นอกจากภาพยนตร์รอบที่ฉายในพิธีเปิดแล้วจะยังคงเปิดฉายให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมโดยฉายที่หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ของไทยมีความเข้าใจวัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒของประเทศไทยเพื่อเพิ่ม “รอบฉายสำหรับมหาวิทยาลัย” ขึ้นเป็นพิเศษ โดยจะฉายในโรงละครของวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในขณะเดียวกัน เพื่อขยายวงกว้างและเจาะลึกการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านภาพยนตร์จีน-ไทย เทศกาลภาพยนตร์จีนในครั้งนี้จึงได้ผนึกกำลังกับ “แพลตฟอร์มทางโทรทัศน์” ในการร่วมกันโปรโมตภาพยนตร์จีนกับสถานีโทรทัศน์ MONO NEXT ซึ่งมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนภาพยนตร์และโทรทัศน์ระหว่างจีนไทย ในช่วงเทศกาลภาพยนตร์จีน สถานีโทรทัศน์ MONO NEXT จะฉายภาพยนตร์จีนยอดเยี่ยมจำนวน 10 เรื่อง เพื่อให้คนไทยได้เพลิดเพลินกับภาพยนตร์จีนโดยไม่ต้องออกจากบ้าน