ทพญ.รัศมี จินดาโรจนกุล คลินิกทันตกรรมสตาร์เด็นท์ ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ลุมพินี) กล่าวว่า เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป จะเป็นวัยทำงาน ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ในขณะเดียวก็จะมีการพบปะสังสรรค์ เข้าสังคมมากขึ้นด้วย การดูแลสุขภาพปากและฟันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ ที่เราไม่ควรจะปล่อยปะละเลย ซึ่งโดยทั่วไปมักจะคิดว่าการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง การใช้ไหมขัดฟันหลังอาหารทุกมื้อ และพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือนก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับบางคนที่ไม่ดูแลสุขภาพฟันอย่างเพียงพอก็ทำให้เกิดปัญหาได้ โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของคนวัยทำงานจะเป็นเรื่องของ ฟันเหลือง เกิดจากคราบบุหรี่ ชา กาแฟ ทำงานดึกจนเพลินไม่ค่อยได้แปรงฟันก่อนนอนทำให้ฟันผุ การเคร่งเครียดขบฟัน กัดฟัน ทำให้ฟันแตก ปัญหากลิ่นปาก คราบหินปูน ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้เสียบุคลิกภาพไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น เราควรดูแลและป้องกันปัญหาสุขภาพปากและฟัน ด้วยข้อปฏิบัติดังนี้
1.อาการฟันแตกหัก อาจเกิดจากการใช้ฟันผิดประเภท ใช้ฟันกัดแทะอาหารที่แข็งเกินไป หรือเกิดจากการบดเคี้ยวฟันขณะเครียดหรือเวลานอน อาการนี้ต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยทันตแพทย์ และควรหลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าและขากรรไกร อย่างไรก็ตาม หากเกิดการแตกหักหรือบิ่นของฟันแล้ว ทันตแพทย์สามารถบูรณะฟันนั้นให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติได้
2.อาการฟันเหลือจากคราบบุหรี่ ชา กาแฟ สามารถป้องกันได้โดยการลดปริมาณการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ลดลง ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ไหมขัดฟัน ดื่มน้ำเปล่าเพื่อลดความหวานในช่องปากและรออย่างน้อย 30 นาทีค่อยแปรงฟัน กรณีที่มีคราบสีติดแน่นควรพบทันตแพทย์เพื่อขัดฟันทำความสะอาดเพื่อขจัดคราบสีเหล่านี้ให้ออกไป
3.อาการฟันผุ มักเกิดจากการละเลยการแปรงฟัน และแปรงฟันไม่ทั่วถึงทุกบริเวณ รวมทั้งไม่ใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ ใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้ควรหลีกเลี่ยงอาหาร ผลไม้ หรือขนมขบเคี้ยวที่มีรสหวานจัด เปรี้ยวจัด เหนียวติดฟัน น้ำอัดลม โซดา รวมทั้งอาหารที่ประกอบด้วยแป้งและน้ำตาลในปริมาณสูง เพราะอาหารเหล่านี้เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วถูกย่อยในช่องปากจะเปลี่ยนสภาพเป็นกรดได้อย่างรวดเร็ว มีฤทธิ์กัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย
4.ปัญหากลิ่นปาก อาจเกิด อาจมีสาเหตุมาจากในช่องปากอย่างเดียวหรือมาจากอวัยวะในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารได้เช่นกัน ถ้าแก้ไขสาเหตุจากในช่องปากเรียบร้อยแล้วยังมีกลิ่นปากอยู่อีก ก็ต้องไปปรึกษาแพทย์ใน 2 ระบบข้างต้นด้วย ทั้งนี้ กลิ่นปากที่มีสาเหตุจากการในช่องปาก เกิดได้จากฟันผุ ฟันคุด และเหงือกอักเสบ ควรแก้ไขโดยการกำจัดสาเหตุดังกล่าว และป้องกันด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เช้า เย็นและหลังอาหารทุกมื้อ
5.ปัญหาคราบหินปูนและเหงือกอักเสบ เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์ตามบริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน เมื่อแปรงฟันไม่ทั่วถึงก็จะเกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์มากขึ้นและเป็นเวลานานขึ้นจนกลายเป็นคราบหินปูน เมื่อแบคทีเรียได้รับอาหารจากที่เรารับประทานเข้าไปก็จะสร้างกรดขึ้นมารอบๆ บริเวณนั้น ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและเนื้อเยื่อปริทันต์ที่อยู่รอบๆ สามารถรักษาได้ด้วยการขูดหินปูน เกลารากฟัน หรือผ่าตัดสร้างเนื้อเยื่อปริทันต์ขึ้นมาใหม่
จากปัญหาที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นว่าการดูแลสุขภาพปากและฟันมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ เพราะมีผลในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังควรพบทันตแพทย์ ทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟันและเช็คปัญหาภายในช่องปากเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
ที่มา : www.manager.co.th
