“จากกังวลสู่วางใจ” –เรื่องราวของข้าพเจ้ากับ“สี จิ้นผิง” (5)

0
9
นายเย่ซีต๋าหว่า(ขวา)กำลังสำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลที่หมู่บ้านเจียงเจียฉือ ตำบลโจ๋วหม่า เขตเกาผิง เมืองหนานชง มณฑลเสฉวน (เอื้อเฟื้อภาพโดยสำนักข่าวซินหัว)

ตอนผู้สื่อข่าวพบกับนายเย่ซีต๋าหว่า อธิบดีกรมกิจการพลเรือนของมณฑลเสฉวนนั้น เขาเพิ่งเดินออกจากห้องประชุมและกําลังจะไปเมืองหนานชงเพื่อสำรวจข้อเท็จจริงทันที

การขับรถจากที่ราบเฉิงตูไปยังพื้นที่ที่เป็นเนินเขาทางตะวันออกของมณฑลเสฉวนนั้นต้องใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง โทรศัพท์มือถือของนายเย่ซีต๋าหว่าดังขึ้นแทบไม่หยุด โดยเนื้อหาที่สนทนาล้วนเกี่ยวกับประเด็นความยากลำบากหรืออุปสรรคที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขให้อย่างเร่งด่วน

“ประชาชนที่ประสบความยากลำบากนั้นเป็นกลุ่มคนที่ท่านเลขาธิการใหญ่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ให้ความรักเป็นพิเศษ และให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ และก็เป็นเป้าหมายหลักในการให้บริการสำหรับงานกิจการพลเรือนของเรา”เมื่อพูดถึงประสบการณ์ที่เคยรายงานต่อหน้านาย สีจิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีน นายเย่ซีต๋าหว่าเปิดอกคุยกับผู้สื่อข่าวอย่างพรั่งพรูแทบไม่หยุดว่า

เมื่อบ่ายวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.2022 นายสี จิ้นผิง ได้เดินทางไปยังโรงแรมมิตรภาพปักกิ่งเพื่อเยี่ยมเยียนสมาชิกในแวดวงการเกษตร สวัสดิการสังคม และการประกันสังคมที่มาร่วมการประชุมสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติชุด 13 ครั้งที่ 5 โดยได้ร่วมการประชุมกับพวกเขาด้วย นายเย่ซีต๋าหว่านั่งในแถวแรกที่หันหน้าไปทางท่านเลขาธิการใหญ่พอดี

“ครั้งนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้พบกับท่านเลขาธิการใหญ่” นายเย่ซีต๋าหว่ากล่าวว่า “ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติเมื่อปี 2017 ท่านเลขาธิการใหญ่ได้ไปไปร่วมการประชุมกับคณะผู้แทนจากมณฑลเสฉวน ตอนนั้นผมก็อยู่ในที่ประชุมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ครั้งนั้นท่านเลขาธิการใหญ่พูดว่าเคยเห็นรายงานทางทีวีเกี่ยวกับ “หมู่บ้านหน้าผา” ในเมืองเหลียงซาน รู้สึกกังวลใจมากเมื่อได้เห็นสภาพการเดินทางของชาวบ้าน”

“แม้ว่าตอนนั้นผมไม่ได้พูดอะไร แต่ได้เขียนคําว่า “กังวลใจ” ลงในสมุดบันทึกพร้อมจดไว้ในใจของผมด้วย”ในช่วง 5 ปีต่อจากนั้น นายเย่ซีต๋าหว่าเดินทางไปครบทุกอำเภอของเมืองเหลียงซาน ความยากลำบากที่ใหญ่ที่สุดคืออะไร? ควรกำหนดมาตรฐานในการให้ความช่วยเหลืออย่างไร? เงินที่ถูกจัดสรรให้เด็กกําพร้าและผู้พิการโดยตรงมีเท่าไร?  นายเย่ซีต๋าหว่าพร้อมเพื่อนร่วมงานได้เดินทางไปที่หมู่บ้านยากจนทีละหมู่บ้าน เข้าไปในบ้านของผู้ยากจนเป็นพิเศษและผู้มีสิทธิ์ได้รับค่าครองชีพขั้นต่ำทุกหลัง เพื่อรับรู้สภาพต่างๆ และตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตลอดจนศึกษามาตรการสำหรับแก้ไขปัญหา

“เราได้เห็น ได้ฟังและได้สัมผัสอย่างจริงจัง เพื่อค้นหาข้อมูลให้กระจ่าง ระบุปัญหาให้แม่นยำ และกําหนดมาตรการอย่างเหมาะสม พยายามทําให้งานบรรเทาความยากจนสำหรับชาวบ้านที่เปราะบางที่สุดนั้นได้ถึงแก่นเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง” เสียงของนายเย่ซีต๋าหว่าดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ด้วยชัยชนะที่เบ็ดเสร็จในการต่อสู้กับความยากจน “หมู่บ้านหน้าผา” ต่างๆได้ข้าม “ภูเขาความยากจน” ที่ผ่านไม่ได้มาหลายชั่วอายุคน ชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ภูเขาต้าเหลียงซานได้เปลี่ยนไปอย่างมาก

ก่อนเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อร่วมการประชุมสองภาเมื่อปี 2022 นายเย่ซีต๋าหว่าได้ขยายและปริ้นรูปสีสองใบที่รวบรวมมาด้วยความตั้งใจเพื่อเปรียบเทียบสภาพในอดีตกับปัจจุบันของ “หมู่บ้านหน้าผา” และเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง

ในที่ประชุมท่านเลขาธิการใหญ่ได้เห็นรูปถ่าย จึงถามด้วยความเป็นห่วงว่าบรรดาชาวบ้านได้ย้ายลงมาจากภูเขาแล้วหรือยัง? เด็ก ๆ ไปโรงเรียนอย่างไร? ผู้สูงอายุไปพบแพทย์อย่างไร?

“ย้ายลงมาแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งยังคงอาศัยอยู่บนภูเขา ทางหมู่บ้านได้พัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว นับวันชีวิตชาวบ้านดีขึ้นเรื่อยๆ”นายเย่ซีต๋าหว่าตอบคำถามของนายสี จิ้นผิงด้วยเสียงดังฟังชัดว่า ““หมู่บ้านหน้าผา” ที่เคยสร้างความกังวลให้กับท่านพลิกโฉมแล้ว ขอให้ท่านเลขาธิการใหญ่วางใจ”

“ท่านเลขาธิการใหญ่ดูปลื้มใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น” นายเย่ซีต๋าหว่ากล่าวว่า “จากกังวลสู่วางใจ” ท่านเลขาธิการใหญ่ห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อนเสมอ

ในวันนั้น นายเย่ซีต๋าหว่ายังได้ขึ้นพูดในประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาสวัสดิการสังคมอย่างยั่งยืน “ท่านเลขาธิการใหญ่บอกว่าหากเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของประชาชนไม่มีเรื่องใดเป็นเรื่องเล็ก ต้องเอาใจใส่และดูแลให้ดี สําหรับประชาชนที่ยากลำบากเรายิ่งต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ ให้ความรักเป็นพิเศษ และให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความห่วงกังวลและความยากลําบากของพวกเขา”

นายเย่ซีต๋าหว่าจดจำคํากำชับของท่านเลขาธิการใหญ่ไว้ในใจ ควรดูแล“ผู้สูงวัยและเด็กเล็ก”อย่างไร? ควรขยายขอบเขตให้ครอบคลุมกลุ่มประชาชนที่มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือให้กว้างขึ้นอย่างไร? การให้บริการสาธารณชนที่ทั่วถึงจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นได้อย่างไร? นายเย่ซีต๋าหว่าและเพื่อนร่วมงานทํางานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต การยังชีพของผู้สูงอายุ และการรักษาพยาบาลผ่านนโยบายและมาตรการต่างๆ

“ตอนนี้น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วใช่ไหม?”

“ไม่ใช่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงแบบธรรมดา แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่”หลังฟังคําถามของผู้สื่อข่าว นายเย่ซีต๋าหว่าเปิดโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อให้ผู้สื่อข่าวดูภาพถ่ายต่างๆ “ผมถ่ายภาพเหล่านี้เมื่อครั้งผมไปสำรวจข้อเท็จจริงที่หมู่บ้านซานเหอ อำเภอเจาเจี๋ย เมืองเหลียงซานเมื่อปลายปีที่แล้ว”

ภาพถ่ายชุมชนชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ อำเภอเจาเจี๋ย เขตปกครองตนเองชนเผ่าอี๋เหลียงซาน มณฑลเสฉวนเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2022 (เอื้อเฟื้อภาพถ่ายจากโดรนโดยสำนักข่าวซินหัว)

ในภาพถ่ายจะเห็นถนนยางมะตอยที่ราบเรียบเชื่อมต่อจนถึงบ้านของบรรดาชาวบ้าน บ้านใหม่ของชนเผ่าอี๋ตั้งเรียงกันเป็นแถวๆอย่างเรียบร้อย ใบหน้าของคุณยายชาวอี๋เบิกบานด้วยรอยยิ้ม…

“ปัญหาความยากลําบากในด้านการเดินทางและน้ำดื่มของชาวบ้านได้รับการแก้ไขมานานแล้ว ทุกๆครอบครัวที่หลุดพ้นจากความยากจนในหมู่บ้านล้วนมีหลักประกันในการรักษาพยาบาล 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถป้องกันไม่ให้พวกเขากลับสู่ความยากจนเนื่องจากความเจ็บป่วยได้อย่างแน่นอน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ที่นี่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็น’แหล่งยากจนข้นแค้น’ยังได้กลายเป็นสถานที่เช็คอินของนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้วย”

นายเย่ซีต๋าหว่ากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เบื้องหลังการถอด“หมวกความยากจน”และการเปลี่ยนหมู่บ้านยากจนให้เป็นหมู่บ้านแห่งความสุขนั้นแยกไม่ออกจากการให้ความสำคัญของท่านเลขาธิการใหญ่ที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และความผาสุกของประชาชน และก็แยกไม่ออกการประกันชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอันเป็นงานที่ต้องบรรลุผลสำเร็จขั้นต่ำให้ได้ซึ่งนับวันมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ”

“ทุกครั้งที่ผมไปเมืองเหลียงซาน เพื่อนร่วมชาติชาวอี๋ย่อมจะพูดด้วยความตื่นเต้นว่า พรรคคอมมิวนิสต์  “หว่าจี๋หว่า” (ดีมาก) “ข่าซาซา”  (ขอบพระคุณ) ท่านเลขาธิการใหญ่สี!”นายเย่ซีต๋าหว่ากล่าว

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

http://www.tcjapress.com/2023/03/02/story-xi-4