บทวิเคราะห์ : จีนและสหรัฐอเมริกาต้องจัดการความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกันอย่างถูกต้อง

0
1

เมื่อไม่กี่วันก่อน การเดินทางเยือนจีนเป็นเวลาสองวันของนายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นที่สนใจของประชาคมระหว่างประเทศ นานาชาติมีความคาดหวังโดยทั่วไปว่าจีนและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสองมหาอำนาจในโลกจะจัดการความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกันได้อย่างถูกต้อง และร่วมกันสร้างคุณูปการในการรักษาสันติภาพและการพัฒนาของโลก

ปัจจุบัน ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกาอยู่ในจุดต่ำสุดนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งนี้ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ และไม่เป็นไปตามความคาดหวังร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ นายบลิงเคนเป็นรัฐมนตรีคนแรกของรัฐบาลโจ ไบเดนที่เดินทางเยือนจีน ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐอเมริกาที่เดินทางเยือนจีนตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ.2018

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวขณะพบกับนายบลิงเคนในกรุงปักกิ่งว่า โลกต้องการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกาที่มีความมั่นคงในภาพรวม การที่จีนและสหรัฐอเมริกาสามารถอยู่ร่วมกันอย่างถูกต้องหรือไม่นั้นมีผลต่ออนาคตและวิถีความเป็นไปของมนุษยชาติ การแข่งขันของมหาอำนาจไม่สอดคล้องกับกระแสนิยมแห่งยุคสมัย ทั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาของสหรัฐอเมริกาเองและความท้าทายที่โลกต้องเผชิญ จีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา จะไม่ท้าทายหรือแทนที่สหรัฐอเมริกา ในทำนองเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็ต้องเคารพจีนและไม่ทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายให้เป็นไปตามความต้องการของตนเอง อีกทั้งไม่สามารถตัดสิทธิ์การพัฒนาโดยชอบธรรมของอีกฝ่าย จีนหวังเสมอว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาจะดำเนินไปด้วยดีและมั่นคง ทั้งสองฝ่ายสามารถค้นพบวิธีที่เหมาะสมในการจัดการความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกันอย่างถูกต้องโดยให้ความเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือเพื่อมีชัยชนะด้วยกัน

นายฉิน กัง มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เน้นย้ำในการพบกับนายบลิงเคนว่า ประเด็นไต้หวันเป็นแก่นสำคัญในผลประโยชน์หลักของจีน เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา และเป็นความเสี่ยงที่โดดเด่นที่สุดด้วย จีนเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมสามฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ให้เป็นจริงตามสัญญาที่ว่าจะไม่สนับสนุน “เอกราชของไต้หวัน”

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า จีนยึดมั่นในหนทางการพัฒนาอย่างสันติ และดำเนินยุทธศาสตร์เปิดกว้างที่อำนวยผลประโยชน์ซึ่งกันและกันและได้ชัยชนะร่วมกัน ตั้งแต่ ค.ศ. 2013 ถึง ค.ศ. 2021 สัดส่วนการสร้างคุณูปการโดยเฉลี่ยของจีนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกนั้นสูงกว่าผลรวมของกลุ่มจี 7 ในการผลักดันความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จีนยึดมั่นในหลักการปรึกษาหารือกัน ร่วมกันสร้างสรรค์และแบ่งปันผลประโยชน์กัน ไม่เคยตั้งเงื่อนไขทางการเมืองใดๆ ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองใดๆ ให้กับตนเอง ปฏิบัติต่อทุกประเทศในฐานะหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน ดำเนินความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์ซึ่งกันและกัน จนถึงขณะนี้ได้ดึงมากกว่า 3 ใน 4 ส่วนของประเทศทั่วโลกและ 32 องค์กรระหว่างประเทศให้เข้ามามีส่วนร่วม

นักสังเกตการณ์ชี้ว่าความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกาที่ตกต่ำมีรากฐานมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกามีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับจีน ใช้นโยบายที่ไม่ถูกต้องต่อจีน และถือว่าจีนเป็นคู่แข่งหลักและเป็นความท้าทายระยะยาวที่ร้ายแรงที่สุด ด้านหนึ่งสหรัฐอเมริกาบอกว่าจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและการเผชิญหน้า แต่อีกด้านหนึ่งสหรัฐอเมริกากลับดำเนินการแข่งขันแบบต้องมีแพ้-ชนะ ด้านหนึ่งสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้มีการเจรจาและการสื่อสาร แต่อีกด้านหนึ่งสหรัฐอเมริกากลับดำเนินการยับยั้งและกดขี่

สื่อมวลชนระหว่างประเทศสังเกตว่าในระหว่างการเยือนจีนของนายบลิงเคน เขาได้แสดงทัศนคติที่สร้างสรรค์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่จับตาว่าจะมีส่วนช่วยให้ทั้งสองฝ่ายบริหารจัดการกับความขัดแย้งและป้องกันการเผชิญหน้าได้

นายบลิงเคนกล่าวว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเห็นว่าสหรัฐอเมริกาและจีนมีความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ในการจัดการความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ดี ทั้งนี้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา จีน และทั่วโลก สหรัฐอเมริกาจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ประธานาธิบดีไบเดนให้ไว้ ไม่แสวงหา “สงครามเย็นครั้งใหม่” ไม่แสวงหาการเปลี่ยนแปลงระบบของจีน ไม่แสวงหาการต่อต้านจีนผ่านการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตร ไม่สนับสนุน “เอกราชของไต้หวัน” ไม่มีเจตนาที่จะเผชิญหน้ากับจีน และมุ่งหวังที่จะดำเนินการแลกเปลี่ยนระดับสูงกับจีน รักษาการสื่อสารที่คล่องตัว จัดการและควบคุมความขัดแย้งด้วยความรับผิดชอบ และแสวงหาการเจรจา การแลกเปลี่ยน และความร่วมมือ

แต่หากมองย้อนไปอดีต สหรัฐอเมริกาไม่เคยขาดการแสดงท่าทีในการปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่ขาดไปคือการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง หวังว่าครั้งนี้สหรัฐอเมริกาจะรักษาคำพูด แสดงให้เห็นถึงลักษณะของประเทศใหญ่ที่ควรมีทั้งความจริงใจและการกระทำ เพื่อนำพาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกากลับคืนสู่หนทางที่ถูกต้อง ในฐานะสมาชิกของหมู่บ้านโลก สหรัฐอเมริกาไม่ควรพยายามแทนที่ “กฎแห่งหมู่บ้าน” ด้วย “กฎแห่งครอบครัว” ยิ่งไม่ควรปล่อยให้ “อเมริกาต้องมาก่อน” บ่อนทำลายระเบียบระหว่างประเทศและปล่อยให้การครอบครองความเป็นใหญ่แบบอเมริกันเหยียบย่ำกฎระหว่างประเทศ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและโรคระบาดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ ตลอดจนวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่ทับซ้อนกัน สิ่งที่โลกต้องการจากมหาอำนาจคือความมั่นคงและความแน่นอน หาใช่อำนาจทำลายล้างไม่อย่างแน่นอน

เขียนโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)