บทวิเคราะห์ หลายประเทศปรับนโยบายเพื่อดึงบุคลากรคุณภาพ

0
1

ปีหลัง ๆ มานี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือและเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก หลายประเทศได้ปรับนโยบายผู้อพยพและบุคลากรที่มีคุณภาพ ตัวอย่างเช่นรัฐบาลเยอรมันได้แก้ไขกฎหมายว่าด้วยผู้อพยพที่มีทักษะวิชาชีพ สหราชอาณาจักรได้ปรับปรุงยุทธศาสตร์การศึกษาระหว่างประเทศ ฝรั่งเศสได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเข้าเมืองและการบูรณาการที่ดีขึ้น แม้ญี่ปุ่นก็ได้ดำเนินโครงการบุคลากรที่มีความสามารถระดับสูงพิเศษ นอกจากนี้ หลายประเทศเช่นประเทศไทยและโปรตุเกสได้ปรับนโยบายวีซ่าระยะยาวตามความต้องการของประเทศ

ปัจจุบันหลายประเทศกําลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ด้านหนึ่งการสูงวัยของประชากรและอัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลงทําให้อุปทานแรงงานลดลง และอีกด้านหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดความต้องการใหม่เกี่ยวกับแรงงาน

สหพันธ์อุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของเยอรมันระบุว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของธุรกิจในเยอรมนียังคงดิ้นรนหาพนักงานเนื่องจากขาดแคลนแรงงาน การวิเคราะห์ประจําปีโดยสํานักงานแรงงานแห่งสหพันธรัฐเยอรมันระบุว่า ปี 2022 เยอรมนีขาดแคลนแรงงานใน 200 อาชีพจากประมาณ 1,200 อาชีพที่สํารวจ ตําแหน่งงานที่ว่างและยากที่จะหาคนมาบรรจุรวมถึง พนักงานขับรถโดยสาร พยาบาล งานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่นๆ สํานักงานสถิติแห่งสหพันธรัฐเยอรมนีคาดการณ์ว่า หากไม่มีมาตรการใด ๆ เยอรมนีจะขาดแคลนแรงงาน 7 ล้านคนในปี 2578

เมื่อเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานที่มีเทคนิคอย่างมากเยอรมนีได้ผ่อนคลายข้อจํากัดผู้อพยพที่มีทักษะวิชาชีพ

และทําให้กระบวนการขอวีซ่าง่ายขึ้น ปี 2023 เยอรมนีได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยผู้อพยพที่มีทักษะวิชาชีพ และประกาศใช้ “บัตรโครงการ” สําหรับพลเมืองจากประเทศนอกสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยให้ผู้ถือบัตรดังกล่าวได้รับใบอนุญาตให้พำนักอยู่ในเยอรมนีเป็นเวลาหนึ่งปี ขณะเดียวกัน กฎหมายใหม่ดังกล่าวยังผ่อนปรนข้อกําหนดเกี่ยวกับรายได้ประจําปีสําหรับการให้บัตรบลูการ์ด (EU Blue Card) สำหรับผู้มีทักษะวิชาชีพและมีการศึกษาระดับสูงจากประเทศนอกสหภาพยุโรป และยังยกเลิกข้อกําหนดคุณสมบัติทางการศึกษาสําหรับผู้มีทักษะที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองได้เคยทํางานในสาขาไอที จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาสมิธ สโตน วอลเตอร์ส (Smith Stone Walters) พบว่า ในอีก 6 ปีข้างหน้า เยอรมนีจะมีแรงงานที่มีทักษะวิชาชีพจากประเทศนอกสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 คนต่อปี

เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2023 กระทรวงศึกษาธิการของอังกฤษได้ปรับปรุงยุทธศาสตร์การศึกษานานาชาติ โดยกําหนดลําดับความสําคัญ 3 ประการ ซึ่งรวมถึงการขยายการส่งออกการศึกษา เพื่อให้แหล่งรายได้มีความหลากหลายรักษาความสามารถด้านการแข่งขันและความยั่งยืนของการเปิดรับนักศึกษาต่างประเทศ อีกทั้งพัฒนาการศึกษาระดับโลกของอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษยังระบุด้วยว่ายินดีต้อนรับนักศึกษาต่างชาติ และมุ่งมั่นที่จะเปิดรับนักศึกษาต่างชาติ 600,000 คนต่อปีภายในปี 2030 และเพิ่มการส่งออกการศึกษาให้เป็น 35,000 ล้านปอนด์ต่อปี รัฐบาลอังกฤษถือว่า นักศึกษาต่างชาติเป็นแหล่งสําคัญของผู้มีความสามารถที่โดดเด่นและสร้างสรรค์ เป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมการศึกษา และเป็นวิธีสําคัญในการขยายการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งเพิ่มอิทธิพลระหว่างประเทศของอังกฤษ

เมื่อเดือนเมษายน ปี 2023 ญี่ปุ่นซึ่งในอดีตไม่ใช่ประเทศที่นิยมเปิดรับผู้อพยพได้ประกาศดำเนิน “โครงการบุคคลระดับสูงพิเศษ” โดยเปิดรับนักวิจัยและบุคลากรด้านเทคนิคจากต่างประเทศที่ต้องมีรายได้ต่อปี 20 ล้านเยนขึ้นไป และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือมีประสบการณ์การทํางานมากกว่า 10 ปี ผู้ประกอบธุรกิจต่างประเทศที่มีรายได้ต่อปี 40ล้านเยนขึ้นไปและผู้ที่มีประสบการณ์บริหารธุรกิจมากกว่า 5 ปีเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ผู้ที่ได้ร่วมโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาเพียงหนึ่งปีก็สามารถได้รับสิทธิ์อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถาวร

ประชากรของญี่ปุ่นได้ลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 12 ปีแล้ว ตามรายงานของกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นพบว่า จนถึงวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2024 ญี่ปุ่นมีประชากรที่มีอายุครบ 18 ปีรวม 1.06 ล้านคน ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานและดึงดูดบุคลากรระดับนานาชาติ ญี่ปุ่นได้เปิดตัว “คุณสมบัติการพำนัก” ด้วย “ทักษะเฉพาะ” สําหรับสาขาอาชีพที่ขาดแคลนบุคลากร โดย “ทักษะเฉพาะ” แบ่งเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกประกอบด้วย 9 สาขาอาชีพ เช่น การประมงและการเกษตร ส่วนประเภทที่ 2 จํากัดเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเรือ ที่ต้องใช้ทักษะระดับสูง แต่ในปี 2023 รัฐบาลญี่ปุ่นได้เพิ่มสาขาอาชีพที่ต้องการทักษะวิชาชีพเฉพาะประเภทที่สองจาก 2 เป็น 11 สาขา

สําหรับสหรัฐอเมริกา นโยบายผู้อพยพเป็นวิธีสําคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างประชากรและดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูงมาโดยตลอด ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม สหรัฐอเมริกาได้ประกาศใช้นโยบายจำนวนหนึ่งเพื่อเปิดรับบุคลากรในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) จากทั่วโลก ปี 2022 รัฐบาลสหรัฐฯเริ่มออกวีซ่านวัตกรรมสำหรับนักธุรกิจต่างชาติ ลดเกณฑ์วีซ่า O-1A สําหรับผู้มีความสามารถพิเศษ และลดระยะเวลาการยื่นขอกรีนการ์ดสําหรับนักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิชา STEM สําหรับนักศึกษาต่างชาติที่สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาวิชา STEM ได้ลดระยะเวลาในการขอวีซ่าทํางานในสหรัฐอเมริกา

จากการที่หลายประเทศปรับนโยบายการย้ายถิ่นฐานและบุคลากรผู้มีทักษะวิชาชีพคาดว่า พร้อมกับการพัฒนาของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งทางเทคโนโลยี และการมาถึงของยุคปัญญาประดิษฐ์ การแข่งขันเพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถระหว่างประเทศย่อมจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

เขียนโดย โจว ซวี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)