1st GASTRONOMY INTERNATIONAL SYMPOSIUM 2017

0
1149

จากการที่เมืองภูเก็ตได้รับประกาศเป็น “เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร” หรือ “City of Gastronomy” ซึ่งนับเป็นเมืองแรกของไทยและอาเซียน ทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองเพียง 18 เมืองทั่วโลก ที่ยูเนสโกประกาศรับรองให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยการอาหาร เมืองภูเก็ตจึงได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน 1st GASTRONOMY INTERNATIONAL SYMPOSIUM 2017 ระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึง วันที่ 1 พฤษภาคม 2560  โดยได้มีพิธีเปิดงานในวันที่ 29 เมษายน 2560 ณ โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ทแอนด์สปา เมอร์ลินบีช หาดป่าตอง

โดย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดฯ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมจาก 17 เมืองทั่วโลกที่ UNESCO ประกาศรับรองให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร โดยมีอาจารย์สาวิตรี สุวรรณสถิต ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม นางสาวดารุณี ธรรมโพธิ์ดล รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดภูเก็ต กงสุลประจำจังหวัดภูเก็ต กลุ่มผู้บริหารอปท. จังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พร้อมด้วยนายถาวร จิรพัฒนโสภณ นายแพทย์โกศล แตงอุทัย รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายพงษ์สิงห์ ณ นคร ประธานสภาเทศบาลนครภูเก็ต นายวิสุทธิ์ พรหมทอง รองประธานสภาเทศบาลนครภูเก็ต นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต สมาชิกสภาเทศบาล และหัวหน้าส่วนราชการ  พร้อมทั้งนายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ตัวแทนจากหอการค้าจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม และสถาบันการศึกษา เข้าร่วมเป็นเกียรติในการเปิดงาน

 

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้ภูเก็ตเป็น “เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร” หรือ “City of Gastronomy” ซึ่งนับเป็นเมืองแรกของไทยและอาเซียน ทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองเพียง 18 เมืองทั่วโลก ที่ยูเนสโกประกาศรับรองให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยการอาหาร โดยเมืองภูเก็ตจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมแลกเปลี่ยน โดยเมืองต่างๆที่เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจะร่วมหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพกับน 18 เมืองทั่วโลกที่ UNESCO ประกาศรับรอง

ทางด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก มีความสวยงามของหาดทราย ทะเล และทรัพยากรธรรมชาติที่โดดเด่นในภูมิภาคนี้ จังหวัดแห่งนี้เคยเป็นเมืองท่าเก่าแก่ในอดีต แล้วเปลี่ยนเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวราว 13 ล้านคนต่อปี เรามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นทุกปี จนต้องมีการขยายสนามบินนานาชาติ เส้นทางการจราจร และปัจจัยการดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนอีกมาก กระผมต้องขออภัยที่ช่วงนี้ท่านอาจลำบากเรื่องการจราจรติดขัดในบางเส้นทาง เพราะอยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามเราหวังว่าในอนาคต เมืองภูเก็ตจะพัฒนาอีกหลากหลายด้านให้เป็นเมืองเจริญและน่าอยู่อาศัย

การจัดประชุมในครั้งนี้ จะเป็นการแนะนำความโดดเด่นของอาหารภูเก็ตและอาหารไทย ให้ชาวไทยและต่างประเทศได้รับทราบ นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์องค์ความรู้ระหว่างเมืองที่ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ทางวิทยาการด้านอาหาร และสร้างความสัมพันธ์อันดีงามบนพื้นฐานของความงามอย่างไทยให้ต่างชาติได้รับทราบ ซึ่งจะต่อยอดการพัฒนา “ภูเก็ต” ซึ่งเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร ให้โดดเด่นบนแผนที่โลกต่อไป

นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรม ดีวาน่า กรุ๊ป

ลูกนัท วิมพ์วิภา บุหงางาม มิสแกรนด์ภูเก็ต 2017 แต่งกายในชุดพื้นเมือง ในฐานะฑูตวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ร่วมงาน Phuket Creative City of Gastronomy International Symposium 2017

ทั้งนี้ในก่อนหน้า คือวันที่ 28 เมษายน 2560 สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมงาน Dinner Reception “Catch of the Andaman” ที่ททท.เป็นเจ้าภาพต้อนรับคณะ 1st Gastronomy International Symposium 2017 ณ โรงแรมเดอะวิจิตรรีสอร์ท อันเป็นการทำความรู้จักกันระหว่างผู้เข้าร่วมงานก่อนการเปิดงานจริง

********************************************************************

“นครภูเก็ตได้รับประกาศเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารของยูเนสโก” (Phuket : City of Gastronomy)

ยูเนสโก ประกาศให้ภูเก็ตเป็นเมืองแรกของไทย และเมืองแรกของอาเซียน เป็นหนึ่งใน 18 เมืองทั่วโลก ที่เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร จากที่อาหารภูเก็ตมีอัตลักษณ์ สูตรลับเฉพาะที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว ไม่สามารถหารับประทานที่อื่นได้

โครงการเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก  ถือเป็นอีกโครงการหนึ่งเคียงคู่กับการประกาศแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์   เพียงแต่เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Culture) และยังผสมผสานความทันสมัยในด้านการสร้างสรรค์หรือมีนวัตกรรมจากพื้นฐาน      อัตลักษณ์เดิม   ยูเนสโกเริ่มต้นโครงการนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗  ได้กำหนดให้ต้องคัดเลือกจากเขตเมืองหรือมหานคร   เนื่องจากเป็นแหล่งรวบรวมวิทยาการและมีพื้นฐานพอที่จะขับเคลื่อนทั้งในส่วนเศรษฐกิจ  สังคม และสิ่งแวดล้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน(Sustainable Development )   ได้แบ่งเมืองสร้างสรรค์ออกเป็น ๗ ประเภท ดังนี้คือ

๑. เมืองแห่งวรรณกรรม (City  of  Literature)

๒. เมืองแห่งภาพยนต์    (City  of Film)

๓. เมืองแห่งดนตรี  (City  of  Music)

๔. เมืองแห่งหัตถกรรมและศิลปะท้องถิ่น( City  of Crafts  and  Folk Arts )

๕. เมืองแห่งการออกแบบ( City  of  Design)

๖. เมืองแห่งศิลปะสื่อประชาสัมพันธ์   (City  of  Media  art)

๗. เมืองแห่งวิทยาการอาหาร (City  of   Gastronomy)

การได้รับเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านอาหารในครั้งนี้  จะทำให้ภูเก็ตมีโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจการลงทุนต่อยอดจากธุรกิจการท่องเที่ยวไปได้อีกหลากหลายประเภท   เช่น  การเป็นเมืองที่ทุกท่านต้องมาชิมอาหาร  มาซื้อของฝากประเภทอาหารที่เกิดจากนวัตกรรมใหม่ๆ    มาชมมาอุดหนุนสินค้าจากแหล่งเกษตรกรรม  ประมงที่เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญในภูเก็ต   รวมถึงต่อไปอาจมีสถาบัน โรงเรียนให้มาเรียนรู้ด้านวิทยาการอาหาร  เป็นต้น  สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ที่ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  ทั้งในส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและประวัติศาสตร์วัฒนธรรม    สอดคล้องกับที่ตนเองก็ได้รับนโยบายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้ส่งเสริมการค้าการลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มจากเมืองท่องเที่ยวเพื่อนำรายได้เข้าประเทศและทำให้ทุกท่านอยู่ดีกินดี

ปัจจุบันมีเมืองสร้างสรรค์ในโลกนี้ที่ได้รับประกาศ ๑๑๖ เมือง  เฉพาะด้านวิทยาการอาหารมีเพียง ๑๘ เมือง  ภูเก็ตภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งใน ๑๘  เมืองของโลกด้านอาหาร     เป็นเมืองแรกของอาเซียน  และตัวแทนนำร่องที่ได้รับประกาศเมืองแรกของประเทศไทย  หลังจากพยายามมากว่า ๓ ปี   โดยทีมงานของนายกสมใจฯ  เทศบาลนครภูเก็ต  และการสนับสนุนของกระทรวงวัฒนธรรม  กระทรวงศึกษาธิการ  มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  และผู้อยู่เบื้องหลังอีกจำนวนมาก   ซึ่งตนเองที่เป็นคนภูเก็ตและในนามของชาวภูเก็ตต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้  และหวังว่าเราจะพัฒนาต่อยอดจากโครงการนี้ต่อไป ภายใต้การยินดีสนับสนุนของทางจังหวัดและทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่

นางสาวสมใจ  สุวรรณศุภพนา  นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า  เเทศบาลนครภูเก็ตได้รับหนังสือจาก มาดาม อิริน่า บูโคว่า (Irina Bokova) ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก แจ้งว่า คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของยูเนสโกได้พิจารณาและมีมติให้ภูเก็ตเป็นสมาชิกใหม่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก สาขา วิทยาการอาหาร (Gastronomy) และอนุญาตให้เทศบาลนครภูเก็ตสามารถใช้ชื่อและตราสัญลักษณ์ของยูเนสโก เพื่อการประชาสัมพันธ์ด้านอาหารได้

การสมัครเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารในครั้งนี้ เทศบาลนครภูเก็ตมีความตั้งใจที่จะดำเนินการเพื่อชาวภูเก็ตทั้งจังหวัด ไม่ว่าจะอยู่ในเขตหรือนอกเขตเราเป็นพี่น้องกันหมด เราเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม มีความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนา เป็นเมืองที่เจริญอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของความสามัคคี สงบ สันติสุขมายาวนานกว่า ๑๕๐ ปี ภายใต้ร่มบรมโพธิสมภารขององค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์  ดังเช่นคนในเขตย่านเมืองเก่าที่เทศบาลนครภูเก็ตมีนโยบายสนับสนุนการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม  ก็จะมีทั้งชาวบาบ๋า เพอรานากัน ชาวมุสลิม ชาวฮินดู ชาวคริสต์ บนพื้นฐานของความเป็นชาวไทยทั้งมวล  จนวัฒนธรรมของเราทั้งอาหาร เสื้อผ้า สถาปัตยกรรม แสดงถึงความหลากหลายที่ผสมผสานกันจนงดงาม  สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมจนเป็นรากฐานให้คนรุ่นหลังได้นำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อเกิดรายได้  เราจึงได้รับการยกระดับเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกในวันนี้

ยูเนสโกได้เห็นจุดเด่นของเมืองภูเก็ตสำคัญ ๆ อยู่ ๕ ประการคือ

๑. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมอาหาร ที่เกิดจากพหุสังคมตามที่ได้กล่าวมาแล้ว

๒. อาหารภูเก็ตเป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกเทศกาล พิธีการ  ความเชื่อ  วิถีชีวิตในครอบครัว   และยังใช้ประกอบการต้อนรับแขกบ้านเมืองให้ประทับใจอยู่เสมอ

๓. อาหารท้องถิ่นภูเก็ตหลายประเภทมีอัตลักษณ์  หาทานที่อื่นไม่ได้ สูตรลับเฉพาะที่ ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว และหลายอย่างเป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต  จำเป็นต้องอาศัยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อการดำรงอยู่อย่างยั่งยืน

๔. ความเข้มแข็ง และความร่วมมือจากภาคเอกชน  ภาครัฐและสถาบันทางวิชาการในภูเก็ต      ทำให้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมบนพื้นฐานวิทยาการด้านอาหารหลากหลายอย่าง เช่น   การจำหน่ายอาหารท้องถิ่นแปรรูป  เป็นของฝาก ของที่ระลึก    การจัดบริการอาหารในร้านอาหารหรือโรงแรม    เทศกาลอาหารชนิดต่างๆ รวมถึงการเข้ามาแลกเปลี่ยนของอาหารนานาชาติ   ทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าสินค้า และการขยายตัวทางเศรษฐกิจแก่เมืองและประชาชน

๕. ชาวภูเก็ตมีน้ำใจ อัธยาศัยดีงาม (Thai Hospitality) ยินดีร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์กับเมืองอื่นๆ ในเครือข่าย หรือต้อนรับด้วยเมืองที่มีภูมิทัศน์งดงาม บรรยากาศอบอุ่น Good Food, Good Health, Good Spirit…in Phuket  กินดี  อยู่ดี มีจิตงาม…ที่ภูเก็ต

ในข้อสุดท้ายนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเป็นสมาชิกในเครือข่ายยูเนสโก   เมื่อภูเก็ตได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร  นอกจากจุดเด่นในความมีน้ำใจ รอยยิ้มแบบไทย   เราจำเป็นต้องมีนโยบายเปิดกว้างทั้งทางความคิดและกิจกรรม   มีการเหย้าเยือนกับสมาชิกอื่นๆ            จึงคาดหมายว่า นครภูเก็ตในอนาคตจะเป็นนครแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ทั้งศาสตร์และศิลป์มาบรรจบกัน   และจะเป็นนครแห่งการสร้างสรรค์และน่าอยู่อย่างยั่งยืน