
วันเด็กปีนี้ มีกิจกรรมดีๆ ด้านการศึกษาเพื่อเด็กไทยที่เป็นอนาคตของชาติ โดยทางมหาวิทยาลัย East China Normal University (ECNU) หรือชื่อจีน “หัวตงซือฟ่าน” อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำของมหานครเซี่ยงไฮ้มาทำการแนะนำให้ข้อมูลด้านการเรียนต่อ รวมทั้งแจกทุนการศึกษาให้แก่เด็กไทย โดยกิจกรรมจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อประเทศจีน “ไอเก็ท” (iGET) อาคารเทรนดี้ สุขุมวิท
มหาวิทยาลัย East China Normal University (ECNU) ก่อตั้งเมื่อปี 1951 เปิดสอนหลายสาขาวิชา ได้แก่ การศึกษา สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงวิทยาศาสตร์ด้านจัดการ ENCU มีชื่อเสียงมากในเรื่องความสวยงามของสถานที่ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยของจีนที่มีสวนสวยที่สุด เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 20 ของเมืองจีนจากการจัดอันดับโลกของ QS (Quacquarelli Symonds World University Rankings)
แม้ว่าหลักสูตรปริญญาตรีที่สอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักมีเพียงสาขาวิชาเดียวคือ “บริหารธุรกิจ” แต่ความไม่ธรรมดาคือหลักสูตรนี้มีความร่วมมือกับสถาบัน EMLYON ในฝรั่งเศส ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสไปเรียนที่ฝรั่งเศสและได้ปริญญาสองใบ
อาจารย์หวง เหม่ยซวี่ ตัวแทนจากฝ่ายดูแลนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัย East China Normal University (ECNU) สรุปข้อเด่นของมหาวิทยาลัยไว้ เช่น มหาวิทยาลัยมีความเป็นนานาชาติมาก เนื่องจากมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติสนใจมาเรียนทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาวเพิ่มขึ้นทุกปี แสดงให้เห็นเรื่องการจัดการ สวัสดิการ สาธารณูปโภค ความมีระเบียบ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม เรียกได้ว่ามีสิ่งแวดล้อมที่มีความเป็นสากล ข้อที่สองมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ชีวิตและรู้จักแบ่งปัน ทุกปีทางมหาวิทยาลัยจะนำนักศึกษาไปยังพื้นที่ที่ห่างไกลเพื่อเป็นอาสาสมัครสอนหนังสือ พวกเขาจะได้เห็นเมืองจีนในอีกรูปแบบหนึ่งและยังได้รู้จักการให้ ส่วนข้อสุดท้าย นักศึกษาที่นี่จะรักสถาบันและมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นั่นแสดงให้เห็นว่านักศึกษาที่นี่เมื่อเข้ามาแล้ว จะได้ใช้ชีวิต ได้รับทั้งความรู้และมิตรภาพ

นอกจากนี้ ฝ่ายดูแลนักศึกษาต่างชาติมีอาจารย์ประจำอยู่ถึง 20 กว่าคน หอพักในมหาวิยาลัยก็มีอาจารย์ประจำ หากมีเหตุด่วนก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถช่วยลดความกังวลของผู้ปกครองที่ต้องส่งบตรหลลานไปใช้ชีวิตในต่างประเทศได้อย่างมาก
ในช่วงแบ่งปันประสบการณ์จากพี่สู่น้อง ทางไอเก็ทได้เชิญรุ่นพี่ 2 คน คือ ”พี่แปม” และ พี่หนิง”
น.ส.ลักษิกา ทองทรัพย์ หรือ “พี่แปม” เพิ่งจบปริญญาตรีจาก ECNU มาสดๆ ประสบการณ์จากพี่แปมค่อนข้างมีประโยชน์ต่อน้องๆ ที่มาเข้าร่วมกิจกรรม เพราะมีความคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุ เรื่องที่กังวล การเตรียมตัวต่างๆ พี่แปมบอกว่าไปอยู่โน่นไม่ต้องกลัวไม่อบอุ่น เพราะฝ่ายดูแลนักศึกษาต่างชาติช่วยได้ อาจารย์ดูแลจากใจจริง ปัญหาเล็กน้อยก็ไม่มองข้าม รู้สึกว่าเขาเข้าใจคนมาต่างแดนจริงๆ ว่าต้องการสิ่งใด
พี่แปมรู้จัก ECNU จากการที่สถานกงศุลเซี่ยงไฮ้มาทำกิจกรรมที่โรงเรียนมัธยม อาจารย์ที่โรงเรียนก็แนะนำ ในขณะที่ตัวพี่แปมเองก็หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย โดยอันดับแรกทำการเลือกเมืองที่ชอบก่อน แล้วดูมหาวิทยาลัยที่อยากไปและมีโอกาสเข้าได้ สุดท้ายดูสิ่งแวดล้อม การเดินทาง นอกจากนี้ พี่แปมยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง หากใครไป ENCU แคมปัสที่อยู่ในเมืองแล้วได้เข้ก็สามารถสมัครเข้าชมรมแบดมินตันได้เลย เพราะพี่แปมนี่แหละที่เป็นคนขอก่อตั้งและเป็นประธานคนแรกของชมรม เรียกได้ว่าใครมีไอเดียอะไรดีๆ เสนอไปมหาวิทยาลัยพร้อมสนับสนุน

ด้าน “พี่หนิง” – น.ส.ประภัสสร นิกรสวัสดิ์ อดีตนักศึกษาปริญญาโท ด้านภาษาศาสตร์และการประยุกต์ของ ECNU ปัจจุบันทำงานบริษัทเอกชนและเป็นอาจารย์พิเศษ พี่หนิงจบจาก ม.กรุงเทพ และ ได้ทุน CSC (The China Scholarship Council) ไปเรียนต่อ พี่หนิงให้ข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจว่า ตนเองอาจจะโชคดีที่ได้รับทุน ถือว่าสิ่งที่ได้มาเป็นโอกาส การที่จะเข้ามหาวิทยาลัยอาจจะไม่ยาก แต่จะจบได้นั้นยากมาก ใช้โอกาสให้คุ้มค่า การไปเรียนที่ ECNU ต้องเรียนภาษาจีนร่วมชั้นกับนักศึกษาคนจีนที่เป็นเจ้าของภาษานั้น จะว่ายากก็ยากอยู่ แต่พี่หนิงบอกเคล็ดลับไว้ว่า “คิดซะว่าถ้าเขาวิ่ง เราก็ต้องเดิน” หมายความว่าหากเพื่อนคนจีนใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการอ่านหนังสือ เราก็ต้องใช้เวลามากกว่า เพื่อเรียนให้ทันเพื่อนๆ นั่นเอง ส่วนการเลือกสาขาวิชา อยากให้มองอนาคตว่าเขาจะต้องการคนแบบไหน อย่ามองแค่ตอนนี้เขาต้องการอะไร และเมื่อเรียนจบออกมา เรามีความสามารถเป็นที่ต้องการไหม เราจะเป็นฝ่ายที่เลือกงานไม่ใช่งานเลือกเรา
พี่หนิงมีความประทับใจกับอาจารย์ที่คณะเป็นอย่างมาก เพราะอาจารย์ที่นี่แน่นทั้งด้านความรู้และจิตวิทยา สอนให้เราคิด สอนให้เราใช้ชีวิต สมกับที่เป็นมหาวิทยาลัยด้านการสอน พี่หนิงได้นำประสบการณ์มาเป็นเทคนิคในการสอนเด็ก เด็กแบบไหนควรกดดัน แบบไหนควรปล่อย

ด้านผู้ปกครองที่มารับฟังบรรยาย ครอบครัวของ “น้องทราย” น.ส.กรณ์ภัสสรณ์ สมบูรณ์ นักเรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ มหาวิทยาลัยบูรพา สนับสนุนให้น้องทรายไปเรียนต่อปริญญาตรีที่เมืองจีน โดยคุณแม่ของน้องทรายเล่าให้ฟังว่า น้องทรายเคยมีโอกาสได้ไปเรียนที่คุนหมิงแล้วชอบมาก จึงมาขอที่บ้านไปเรียนต่อปริญญาตรีที่เมืองจีน ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่น่าห่วงอะไร เพราะตั้งใจจะให้น้องอยู่ในหอของมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาใช้บริการของทางไอเก็ทช่วยหาข้อมูลประสานงานก็ประทับใจ เพราะเอาใจใส่ติดตามสม่ำเสมอ ด้านตัวของน้องทรายเองอยากไปเรียนต่อด้านภาษาจีนเพื่อธุรกิจ เน้นการใช้งานได้จริงหลังจากที่เรียนจบมาแล้ว
ปิดท้ายกันด้วยคำแนะนำจากอาจารย์หวง ตัวแทนจากฝ่ายดูแลนักศึกษาต่างชาติว่า นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหรือ Belt and road จะทำให้วิสาหกิจจีนเข้ามาลงทุนหรือขยายสาขาที่ไทยมากขึ้น และแน่นอนว่าเด็กที่จบจากจีน มีความรู้ภาษาจีน และเข้าใจวัฒนธรรมจีนจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นแน่นอน
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿