ความผูกพันบนผืนผ้าที่เก่าและขาดสะท้อนถึงชีวิตที่เรียบง่ายและติดดิน -เส้นทางสีจิ้นผิง (16)

0
15

วันหนึ่งในเดือนเมษายนปี 1982 ผู้คนในละแวกที่ทำการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำอำเภอเจิ้งติ้ง ต่างมามุงดูผ้าที่ตากไว้บนราว มีผ้าห่มนวมสีซีดขนาดเล็กที่ทั้งเล็กและสั้น และผ้ารองนอนที่มีรอยปะทั้งผืน มีคนแอบนับจำนวน “รอยปะ” บนผ้ารองผืนนั้นมีมากถึง 45 จุด

“นี่เป็นของเลขาธิการฯ สี” เสียงกระซิบของใครคนหนึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจ และเมื่อได้ยินเรื่องราวดังกล่าว เหออี่ว์ รองนายอำเภอเจิ้งติ้งในขณะนั้นจึงรีบเข้ามาหาสีจิ้นผิงและบอกให้เขายืมผ้าห่มนวมและผ้ารองนอนชุดหนึ่งจากบ้านพักรับรองเพื่อการนอนหลับที่สบาย

แต่สีจิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ที่อำเภอเจิ้งติ้งในขณะนั้นกลับปฏิเสธความหวังดี โดยให้เหตุผลว่าเคยชินกับชุดเครื่องนอนดังกล่าว สีจิ้นผิงกล่าวว่า “แม้ว่าผ้าห่มนวมของผมอาจเล็ก แต่ก็ยังมีเสื้อคลุมทหารที่ตอนกลางวันผมใส่และใช้คลุมเท้าในตอนกลางคืน”

สีจิ้นผิงยังได้เล่าเบื้องหลังเกี่ยวกับผ้ารองนอนผืนนั้นว่า ที่คนเห็นเป็น “ผ้าที่ถูกปะชุนซ่อมแซม” แต่ในความเป็นจริงคุณแม่ของเขาใช้เสื้อผ้าเก่าๆ ในบ้านตัดเย็บเข้าด้วยกันตั้งแต่เขาอายุ 15 ปี ไปฝึกงานในชนบททางตอนเหนือของมณฑลส่านซี และเขาก็ได้พกมันไปไหนมาไหนด้วยเสมอ “ผมมีความผูกพันกับมันมาก” สีจิ้นผิงกล่าวด้วยความจริงใจ

เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปคนส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกันว่า “ขนาดสีจิ้งผิงที่มาจากส่วนกลาง แต่กลับประหยัดยิ่งกว่าเจ้าหน้าที่ระดับรากหญ้าจำนวนมาก”

ด้านสถานที่ทำงาน เดิมทีคณะกรรมการพรรคและรัฐบาลของอำเภอเจิ้งติ้งทำงานภายในอาคารเดียวกัน สำนักงานเป็นห้องชั้นเดียวที่สร้างด้วยอิฐและกระเบื้องในทศวรรษ 1950 ผ่านมาเกือบ 30 ปี นอกจากจะอยู่ในสภาพทรุดโทรมมีความชื้นสูงในฤดูใบไม้ผลิ ชื้นและร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน  คนทำงานต้องเผชิญลมแรงในฤดูใบไม้ร่วง เผชิญความหนาวที่แดดส่องไม่ถึงในฤดูหนาว เจ้าหน้าที่ที่ทำงานที่นี่หากไม่มีบ้านพักในเมือง ก็จะทำงานและค้างคืนที่นี่

เหมือนกับสีจิ้นผิงที่ห้องทำงานและห้องนอนคือห้องเดียวกัน ประกอบด้วยโต๊ะ เก้าอี้ อย่างละตัวและตู้หนังสือ  เก้าอี้สองตัวรองรับแผ่นไม้หนึ่งแผ่นเป็นเตียง บวกกับที่ตั้งกะละมังล้างหน้าและกระติกน้ำร้อน ทั้งหมดนี้คือสมบัติของเขา เมื่อถึงฤดูหนาวก็จะเพิ่มเตาถ่านหินขนาดเล็กสำหรับให้ความร้อนและกาต้มน้ำเหล็กสำหรับต้มน้ำ

จนกระทั่งต้นปีที่สองหลังจากสีจิ้นผิงไปทำงานในเจิ้งติ้ง อาคารสำนักงานใหม่ของคณะกรรมการพรรคประจำอำเภอได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ สีจิ้นผิงย้ายไปที่ชั้นสอง สภาพต่างๆ จึงได้รับการปรับปรุงดีขึ้น ในห้องทำงานมีห้องนอนเล็ก ๆ ที่แยกต่างหาก การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการเพิ่มตู้หนังสือจากเดิมตู้เดียวมาเป็นสองตู้

ในเวลานั้นที่ทำการคณะกรรมการพรรคประจำอำเภอเจิ้งติ้ง  มีโรงอาหารขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว ซึ่งให้บริการตามเวลาที่กำหนด สี จิ้นผิงก็เหมือนกับคนอื่นๆ เมื่อถึงเวลาอาหารก็จะถือชามข้าวไปรอคิว

เพราะงานที่ยุ่ง สีจิ้นผิงจึงไม่ค่อยได้ทานข้าวตรงเวลา บางทีเลิกประชุมสาย เขาก็จะหยิบหมั่นโถวสองลูกและเต้าหู้พะโล้หนึ่งชิ้นจากโรงอาหารมาทานแทนข้าวหนึ่งมื้อ บางครั้งกว่าเขาจะกลับมาจากการลงพื้นที่ในชนบท เป็นเวลาที่โรงอาหารปิดแล้ว เขาก็จะใช้เตาถ่านขนาดเล็กต้มบะหมี่กินในห้องทำงาน

ช่วงฤดูหนาวปี 1983 สีจิ้นผิงล้มป่วยเนื่องจากการทำงานหนักและรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา เริ่มแรกเขาคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่ต่อมาเขาจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพราะอาการรุนแรงขึ้น เขาพยายามต่อรองกับหมอว่า “แค่กินยาน่าจะหาย” แต่หมอกลับปฏิเสธและขอให้เขาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สีจิ้นผิงจึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 256 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน และหลังจากนั้นเพียงสามวัน สีจิ้นผิงก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับไปทำงานอย่างหนักเช่นเดิม

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน (CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

http://www.tcjapress.com/2022/12/02/xi-way-15/