การปรับปรุงเมืองเก่าต้องบรรลุ “สามผสมผสาน”- เส้นทางสี จิ้นผิง(63)

0
5
นายสี จิ้นผิง ขณะออกตรวจเยี่ยมพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำหมิ่นเจียงเมื่อปีค.ศ.1995 (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)

ฤดูใบไม้ผลิต ค.ศ.1992 มีการติดประกาศรื้อถอนเพื่อเวนคืนที่มีการประทับตราหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องไว้บนฝาผนังไม้กระดานสีดำที่ทรุดโทรมในชุมชนที่เต็มไปด้วยบ้านที่เป็นกระท่อมริมถนนเจียงปิน เขตไถเจียง เมืองฝูโจว สิ่งนี้เหมือนกับการโยนก้อนหินขนาดใหญ่ลงในแม่น้ำ ทำให้น้ำกระเพื่อมหนัก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง

กล่าวโดยสรุปเป็นการยากที่มนุษย์จะละทิ้งบ้านเกิดแม้ยากจนก็ตาม ชาวเมืองฝูโจวมักพูดว่า “ไปนี่ไปโน่นมาแล้วก็ไม่อยากออกจากฝูโจว รังทองรังเงินก็ไม่ดีเท่ารังฟางของตนเอง” และยิ่งไปกว่านั้น ถนนเจียงปินตั้งอยู่ย่านท่าเทียบเรือที่คึกคักซึ่งเป็น “ดินแดนแห่งทองคำ” อันเก่าแก่ ไม่ว่าจะเปิดร้านหรือให้เช่าต่างก็สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าใครหากจะมาปิดหนทางทำรายได้ของผู้อยู่อาศัยก็คงไม่มีใครยอมง่ายๆเป็นธรรมดา

“ใครก็ตามที่ต้องการให้ฉันย้ายออกไปฉันก็จะตายที่นี่ต่อหน้าเขา!” ทันทีที่ได้ยินว่าถนนเจียงปินจะถูกเวนคืน คุณยายคนหนึ่งได้ขนเครื่องนอนจากห้องข้างในไปที่ห้องรับแขกแล้วยืนที่ประตูบ้านและพูดประโยคดังกล่าว เธออาศัยอยู่ที่ถนนเจียงปินมานานกว่า 40 ปี เธอเป็นคนพูดเสียงดัง หยาบคาย และหงุดหงิดง่ายเมื่อประสบสิ่งต่างๆที่ไม่ได้ดั่งใจ เพื่อนบ้านมักจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเธอ

เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการผู้อยู่อาศัย ตำบล และเขตไม่ท้อ พวกเขาแวะเวียนมาพูดคุยกับผู้สูงอายุรายนี้วันละ 7-8เที่ยวด้วยเหตุผลและความอดทน โดยไม่เพียงพูดถึงหลักการและทฤษฎีเกี่ยวกับการนำเข้าทุนต่างชาติเพื่อพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ การเร่งปฏิรูปและเปิดประเทศ ตลอดจนการสร้างสรรค์เศรษฐกิจ หากยังพูดถึงผลประโยชน์จากการปรับปรุงเมืองเก่าและการสร้างบ้านให้ใหม่เพื่อยกระดับสภาพแวดล้อมด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนอีกด้วย

ในวันที่สาม เพื่อนบ้านพบว่าความคิดของคุณยายเปลี่ยนไป หลังจากหมดห่วงแล้ว คุณยายได้เชิญญาติ 5-6 คนมาที่บ้านยามดึกเพื่อช่วยกันเก็บเครื่องนอนจากห้องรับแขก และย้ายไปอยู่กับญาติของเธอด้วยความสมัครใจก่อนที่กองบัญชาการเวรคืนจะจัดการประชุมเพื่อเปิดการรณรงค์เรื่องเวรคืน

ระหว่างวันที่ 15-18 เมษายน ค.ศ.1992 ในช่วงเวลาไม่ถึง 100 ชั่วโมง โครงการเวรคืนขนาดใหญ่ริมถนนเจียงปินซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 88 โหม่ว (2.4 โหม่วเท่า 1 ไร่) และเกี่ยวข้องกับ 2,183 ครัวเรือน ผู้อยู่อาศัยมากกว่า 10,000 คน หน่วยงานระดับมณฑล เมืองและเขตรวม 38 แห่ง และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมภาคเอกชน 381 ราย ก็ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยอย่างราบรื่น

ผู้ที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ต่างรู้ดีว่า เหตุผลที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยกว่า 10,000 คนยอมย้ายถิ่นฐานอย่างราบรื่นนั้นรวมถึงการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของมวลชนเป็นอันดับหนึ่งด้วยปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม การแสดงให้พวกเขาเห็น “ไพ่ตาย” การให้“ความมั่นใจ”แก่พวกเขา ตลอดจนการช่วยแก้ไขปัญหาความยากลำบากของพวกเขาด้วย

สำหรับภารกิจการปรับปรุงเมืองเก่า นายสี จิ้นผิงมีท่าทีที่ชัดเจนว่า “จุดประสงค์ของการปรับปรุงเมืองเก่าไม่ใช่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่เพื่อตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ดีให้กับประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านผู้ยากไร้”

“ที่อยู่อาศัยที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะต้องได้มาตรฐาน มีฟังก์ชันครบครัน มีความสะดวก และต้องมีห้องน้ำ จะให้ชาวบ้านต้องหาที่อาบน้ำนอกบ้านหรือจำต้องหิ้วถังไม้ออกไปข้างนอกเพื่อทิ้งสิ่งปฏิกูลอีกต่อไปไม่ได้เด็ดขาด” นายสี จิ้นผิงเสนอข้อเรียกร้องอย่างเป็นรูปธรรม

เขาย้ำว่าสำหรับครัวเรือนที่ยากจนข้นแค้น เป้าหมายของรัฐบาลคือต้องแก้ปัญหาอื่นๆ ทั้งหมดให้กับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถ “หิ้วกระเป๋าใบเดียวก็ย้ายเข้าอยู่อาศัยได้” นอกจากนี้เขายังเสนอว่าควร “จัดสรรบ้านใหม่ให้ผู้ถูกเวรคืนในบริเวณพื้นที่เดิม” และคัดค้านแนวปฏิบัติที่อพยพชาวบ้านทั่วไปออกและให้กลุ่มคนร่ำรวยย้ายเข้ามาอยู่อาศัย

การปรับปรุงเมืองเก่าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเมืองครั้งใหญ่ที่ทุกคนมีส่วนร่วม ประชาชนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมือง แต่ความกังวลของผู้กำหนดนโยบายซึ่งอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงไม่ค่อยเป็นที่ทราบกัน ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดคำเดียวก็คือ เงิน! ด้วยเงินทุนที่จำกัด ควรจะรักษาสมดุลระหว่างการปรับปรุงชุมชนที่เป็นกระท่อมกับการพัฒนาเมืองให้เป็นไปด้วยดีได้อย่างไร?

ต้องทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ถ่องแท้ก่อนเท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้

ในขณะนั้น มีบริษัทต่างๆ หลายสิบบริษัทที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองฝูโจว ซึ่งหลายบริษัทเป็น “วิสาหกิจทุนสามประเภท”(”วิสาหกิจทุนสามประเภท”หมายถึงวิสาหกิจสามประเภทที่ต่างชาติดำเนินธุรกิจในประเทศจีน ได้แก่ วิสาหกิจร่วมทุนระหว่างจีนกับต่างประเทศ วิสาหกิจร่วมมือระหว่างจีนกับต่างประเทศ และวิสาหกิจทุนเอกเทศของต่างชาติ)และมียอดการลงทุนจากต่างประเทศเกิน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หลังการปฏิรูปและเปิดประเทศ ประชาชนฝูโจวมีเงินในมือมากขึ้นทุกปี ภายในปี 1990 ยอดการออมของชาวเมืองและในชนบทเกิน 6,000 ล้านหยวน

นายสี จิ้นผิง ได้เสนอแนวคิด “การผสมผสาน 3 ประการ” สำหรับการปรับปรุงเมืองเก่าฝูโจว ได้แก่ การผสมผสานระหว่างการปรับปรุงเมืองเก่ากับการปฏิรูประบบการใช้ที่ดินอย่างลึก การปฏิรูประบบที่อยู่อาศัย และการปฏิรูประบบการเงิน

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

https://www.tcjapress.com/2023/11/29/xi-way-62/