Alibaba จับมือมาเลเซียสร้าง “เขตการค้าเสรีดิจิทัล” (DFTZ)

0
306

Alibaba จับมือมาเลเซียสร้าง “เขตการค้าเสรีดิจิทัล” (DFTZ)

          นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนาย Jack Ma ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท Alibaba Group ร่วมกันประกาศเปิดเขตการค้าเสรีดิจิทัล ในมาเลเซีย ซึ่งถือเป็น DFTZ แห่งที่สองของโลก และเป็นศูนย์ e-commerce นอกจีนแห่งแรกของ Alibaba Group โดยมาเลเซียคาดหวังให้ศูนย์ดังกล่าวเป็น HUB สำหรับธุรกิจ e-commerce เพื่อการค้าระหว่างมาเลเซีย-อาเซียนและทั่วโลก ทั้งเชื่อว่า DFTZ จะช่วยให้เศรษฐกิจของเลเซียเติบโตในอัตราเลขสองหลัก (Double-digitgrowth) มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศเพิ่มเป็น 211 พันล้านริงกิต(1.64 ล้านล้านบาท) ภายในปี ค.ศ. 2020 และความสามารถในการส่งออกสินค้าของธุรกิจ SMEs จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว สร้างมูลค่ากว่า 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.23 ล้านล้านบาท) และสร้างงานกว่า 60,000 ตำแหน่ง ภายในปี ค.ศ. 2025

          ด้าน Jack Ma ได้ให้เหตุผลที่เลือกมาเลเซียเป็นศูนย์ e-commerce นอกจีนแห่งแรกของ Alibaba เนื่องจากมาเลเซียเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ตนเคยคิดไว้ ทั้งยังมีระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อนักธุรกิจ ประกอบกับสัดส่วนธุรกิจ SME ที่มีสูง ทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียมีความยั่งยืน สะท้อนให้เห็นการจ้างงานและอำนาจการซื้อของคนชั้นกลาง

          ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้เคยเข้าหารือกับ Jack Ma เกี่ยวกับความร่วมมือด้าน e-commerce ที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 และต่อมาได้แต่งตั้งนาย Ma เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้มีแผนการเยือนบ้านเกิดของนาย Ma ที่เมืองหางโจว ก่อนการประชุม “Belt and Road Summit” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2560 นี้ด้วยเช่นกัน

          นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และ Jack Ma ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานและภาคเอกชนของมาเลเซีย เพื่อเดินหน้าธุรกิจในเครือของ Alibaba Group อีก 5 ฉบับ ได้แก่

1) Malaysian Digital Economy Corporation (MDEC) กับ Alibaba Group

2) บริษัท Malaysia Airport Holdings Bhd กับ Cainiao Network

3) ธนาคาร Maybank กับ Alipay

4) ธนาคาร CIMB กับ Alipay

5) MDEC กับ Catcha Group

          สำหรับโครงการ DFTZ ตั้งอยู่ในเขตเมืองท่าอากาศยาน KLIA Aeropolis บนเนื้อที่ 45 เฮกตาร์ หรือประมาณ 281 ไร่ อันประกอบด้วย Hub ย่อย ได้แก่

1) e-Fulfillment Hub จะดำเนินการในเฟสแรกภายในสิ้นปีนี้ ภายใต้ความร่วมมือของ Alibaba, Cainiao,Lazada และ Pos Malaysia เพื่ออำนวยความสะดวกพิธีศุลกากรให้การส่งออกแลการนำเข้าสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว

2) e-Logistics Hub ศูนย์กระจายสินค้าเต็มรูปแบบของ Alibaba ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2019

          นอกจากนี้รัฐบาลมาเลเซีย ยังมีแผนที่จะสร้างเมืองอินเตอร์เนตกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur Internet City-KLIC) ภายในโครงการ Bandar Malaysia บนพื้นที่ 5 ล้านตารางฟุต ภายในระยะเวลา 15 ปี มูลค่าการลงทุนประมาณ 5 พันล้านริงกิต (38,913 ล้านบาท) ซึ่ง KLIC จะเชื่อมต่อธุรกิจอินเตอร์เนต 10,000 แห่ง พร้อมกับการสร้างบุคลากรมืออาชีพด้าน IT กว่า 25,000 ตำแหน่งในอนาคตด้วย